Hippie “ฮิปปี้” หรือ “บุปผาชน” เป็นวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นในช่วง
ยุค 60s โลกในเวลานั้นเป็นช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
รัฐบาลอเมริกาต่างเร่งพัฒนาเเละเฟื่องฟูเศรษฐกิจ หลังสงคราม
ทำให้เวลานั้นเกิดการจ้างงานและพัฒนาเศรษฐกิจเต็มรูปแบบ
จนทำให้ชนชั้นเเรงงานในสังคมอเมริกัน สามารถพัฒนา
ขยับขึ้นมาเป็นชนชั้นกลางหรือ กลายเป็นกลุ่มที่มีฐานะร่ำรวย
ทำให้วัยรุ่นในสมัยนั้น ซึ่งก็เป็นลูกหลานของชนชั้นแรงงาน
เกิดความฟุ่มเฟื่อย หลงใหลในวัตถุนิยม ใช้จ่ายโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง
เเละไม่รู้จักกับความลำบากที่คนรุ่นก่อนต้องเผชิญ จนเกิดเป็นสังคม
วัตถุนิยมฟุ้งเฟ้อ เเละเเนวขึ้นแบบอเมริกันดรีม (American Dream)
ก็ได้เกิดขึ้นมาในช่วงเวลานี้เอง

 

-------------------------------------------------

 

-------------------------------------------------

เมื่อผู้คนหลงใหลในวัตถุมากขึ้น ก็เกิดกระเเสต่อต้านลัทธิวัตถุนิยม
คนหนุ่มสาวในสมัยนั้น บางกลุ่มเริ่มหันหลังให้วัตถุนิยม พวกเขาปลีกตัว
ออกจากสังคมเเละเรียกตัวเองว่า “ฮิปปี้” มุ่งหน้าหาอิสรภาพ
ค้นหาความหมายของชีวิต ความรัก และความซื่อสัตย์ ผ่านดนตรี เเละยาเสพติด
พวกเขาเดินทางแบบไร้จุดหมาย คือค่ำไหนนอนนั่นไปทั่วประเทศ
กลุ่มฮิปปี้จะมีสถานที่ที่พวกเขามักไปรวมตัวกันที่เรียกว่า ไฮ-แอชบิวรี่
(Haight - Ashbury) นครซานฟรานซิสโก พวกเขาใช้ชีวิตแบบเสรี
เสพยาเสพติด ไม่ทำงานจนเกิดเป็นปัญหาสังคม 
กลุ่มฮิปปี้มักจะโดนจับอยู่บ่อยครั้ง เเต่ด้วยความที่กลุ่มฮิปปี้ไม่นิยม
ความรุนเเรง ทุกครั้งที่เกิดการปะทะกับตำรวจขึ้น
เเทนที่พวกเขาจะใช้ความรุนเเรง พวกเขากลับมอบช่อดอกไม้
ให้กับพวกตำรวจเเทน

เเต่เมื่อใกล้สิ้นทศวรรษที่ 60 สภาะวะเศรษฐกิจเริ่มฝืดเคือง
ภาพลักษณ์ของกลุ่มฮิปปี้ถูกมองเป็นพวกติดยาเสพติด
ไร้อนาคต บางรายก็ติดยาอย่างหนักจนถึงขั้นซูบผอมเเละซึมเศร้า
หนุ่มสาวจำนวนไม่น้อยต้องจบชีวิตจากการเสพยาเกินขนาด
ทำให้สภาวะของกลุ่มฮิปปี้เริ่มเลวร้ายลง จนเข้ากลางยุค 70s
ความเจริญทางเทคโนโลยีเข้ามาเเทนที่ทำให้สภาพสังคมเปลี่ยนไป
กลุ่มฮิปปี้ก็ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงเเละต่างเเยกย้าย
กระจัดกระจายและหายไปในที่สุด
ในช่วงปลายปี 1979 ยุคสมัยของฮิปปี้ก็ได้จบลง เหลือทิ้งไว้เพียง
อิทธิพลที่ถูกส่งต่อผ่านเเฟชั่น ดนตรี งานเขียนหรือในภาพยนตร์
ที่ยังคงถูกพูดถึงอยู่จนทุกวันน

เเล้วเเฟชั่นในแบบฮิปปี้เป็นยังไงกันนะ?

ด้วยความที่กลุ่มฮิปปี้นั้นมีความต่อต้านในทุนนิยม เสื้อผ้าส่วนใหญ่
ของพวกเขาจะต้องไม่ใช่เสื้อผ้าที่ถูกผลิตมาจากโรงงาน
พวกเขามักจะทำเสื้อผ้าขึ้นมาเองด้วยการถักด้วยมือ ถักนิตติ้ง
หรือการทำมัดย้อม โดยกลุ่มฮิปปี้จะเน้นใส่เสื้อผ้าที่เกี่ยวข้อง
กับธรรมชาติ เสื้อลายดอก หรือเสื้อของชนเผ่าพื้นเมืองรวมไปถึง
เครื่องประดับมักทำมาจากวัสดุจากธรรมชาติอย่างเปลือกหอย
หรือหินต่างๆ

4 ไอเทมที่ชาวฮิปปี้ต้องมี
(4 Must Have Hippie Items)

1.กางเกงขากระดิ่ง (Flare Pants)

กางเกงขากระดิ่งถือว่าเป็นไอเทมคู่ใจสำหรับชาวฮิปปี้เลยทีเดียว
กางเกงขากระดิ่งเริ่มเป็นที่นิยมในหมู่ชาวฮิปปี้ในช่วงปี 1965
โดยลักษณะของกางเกงจะถูกดีไซน์ให้รัดรูปตามส่วนโค้งของช่วงขา
เเต่ในส่วนปลายของกางเกงนั้นจะบานออก บอกเลยว่ากางเกงทรงนี้
นั้นเหมาะกับสาวๆ เพราะมันจะช่วยให้ขาดูเรียวเล็กกว่าความเป็นจริง
เเละทรงของกางเกงนั้นเล่นกับเส้นนำสายตาของเรานั่นเอง

2.เสื้อมัดย้อม (Tie-Dye T-Shirts)

เสื้อมัดย้อมอีกไอเทมที่ใครอยากจะฮิปต้องมี เสื้อมัดย้อมเข้ามา
ในอเมริกาครั้งเเรกในปี 1909เเต่มันกลับไม่ได้รับความนิยม
จนเกือบจะหายไปเลยด้วยซ้ำ
เเต่ในปี 1960 เจนิส จอปลิน และจอห์น เซบาสเตียน สองร๊อคสตาร์
ได้เลือกสวมใส่เสื้อลายมัดย้อม จนมันกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง
เเละศิลปินนิวยอร์กทั้งสองคนยังสร้างสรรค์เสื้อให้กับ
เทศกาลดนตรี Woodstock เทศกาลดนตรีในตำนานของชาวฮิปปี้
จึงทำให้เสื้อมัดย้อมกลายมาเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นชาวฮิปปี้
เสื้อมัดย้อมไอเทมง่ายๆที่ใส่เเล้วดูฮิปขึ้นมาทันตาเห็น
ใครอยากฮิปต้องมีนะจะบอกให้!