เราอยู่ในยุคอิสรภาพเบิกบาน ความคิดเรื่องเพศเเละความเท่าเทียมถูก
เปิดกว้างสิ่งเหล่านี้ถูกสะท้อนออกมาผ่านมุมมองด้านแฟชั่นเเละ
การเเต่งตัวผู้ชายหันมาทาเล็บสีนีออนสุดเเสบหยิบกระโปรง
มาใส่กับรองเท้าหนังส้นสูงผู้หญิงเองก็หันมาใส่กางเกงยีนส์
ทรงbaggyใส่สูทผูกไท ไม่มีข้อจำกัดทางเพศมาปิดกั้น
เเต่เพื่อนๆเคยสงสัยกันไหมว่าใครกันที่เป็นคนกำหนดว่า
"ผู้ชายต้องใส่กางเกงผู้หญิงต้องใส่กระโปรง"
Frank The More You Know เราจะชวนทุกคน
มาตั้งคำถามเเละหาคำตอบกับทุกๆคำถามเเฟชั่นรอบตัว เริ่มกันที่คำถามแรกเลยว่า
ทำไมผู้ชายต้องถูกจับคู่กับกางเกงและผู้หญิงต้องคู่กับกระโปรง?



 

จุดเริ่มต้นในการหาคำตอบ อาจจะต้องย้อนไปไกลซักหน่อย
ประมาณ 3,900 ปีก่อน คริสตกาลในยุคเริ่มแรกมนุษย์ยังใช้หนังสัตว์
ฟางหรือใบไม้มาปกปิดเรือนร่าง เเต่เมื่อมนุษย์เริ่มรู้จัก
การทอผ้าเสื้อผ้าจึงถูกปรับเปลี่ยนให้มีอารยะมากขึ้นกลายเป็น
ผ้าผืนใหญ่คลุมทั้งตัวหรืออาจใช้พันรอบเอวที่มีลักษณะคล้ายกระโปรง
"พูดง่ายๆคือทุกเพศล้วนเคยใส่กระโปรงกันมาก่อนทั้งนั้น"

 

 

 

 

เขยิบมาในศตวรรษที่ 16 เป็นยุคเเห่งการล่าอาณานิคม ผู้ชายต้องไป
ออกรบและยุคนั้นได้มี การใช้ม้าในการทำสงคราม ทหารม้าจึงถือกำเนิด
ขึ้นจะใส่ผ้าพันรอบเอวขี่ม้าผ้าก็หลุดง่ายขายหน้าข้าศึกกันไปอีก!
ดังนั้นผู้ชายจึงต้องหาเครื่องเเต่งกายที่เหมาะสมต่อการทำศึกสงคราม
กางเกงจึงเป็นคำตอบ พอผู้ชายได้ลองใส่กางเกงก็รู้สึกว่าเฮ้ย!
นี่มันสบายกว่ากันเยอะเลยนี่ หว่า!

 

 


ขยับเข้าใกล้ปัจจุบันกันอีกหน่อย ศตวรรษที่ 18
ซี่งเป็นยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมผู้ชายขยับมามีบทบาทมากขึ้น
ทั้งในด้านเเรงงาน การเมืองหรือเศรษฐกิจผู้หญิงถูกลดบทบาท
ให้เป็นเพียง เเม่หรือภรรยา อ่อนหวาน รักสวยรักงาม กระโปรงจึง
ค่อยๆกลายมาเป็นเครื่องแบบเฉพาะของ ผู้หญิงที่เเสดงถึงสถานะเเละ
บทบาททางสังคมในเวลานั้น“ผู้หญิงเองก็ใส่กางเกงได้”





ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ผู้ชายถูกเกณฑ์ไปรบจนเเรงงานขาดตลาด
ผู้หญิงจึงเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในตอนนั้นเองที่ผู้หญิงได้เริ่มใส่
กางเกงเเต่ในสังคมขณะนั้น ยังมองว่าไม่เหมาะสมหากผู้หญิงจะใส่
กางเกงนอกเหนือเวลาทำงาน ถึงขั้นมีการตัดสินจำคุกผู้หญิงที่
ใส่กางเกงอีกด้วยจนยุคสมัยเริ่มเปลี่ยนไปผู้หญิงเริ่มออกไปทำงาน
เล่นกีฬาทำกิจกรรมอื่นๆเริ่มมีการรณรงค์เรื่องความเท่าเทียม
เส้นเเบ่งทางเพศสภาพเริ่มจางหายไปกางเกงเเละกระโปรงจึงไม่ได้
เป็นตัวกำหนดบทบาทของชายหญิงอีกต่อไป!แม้ว่าในอดีตเพศสภาพ
เคยเป็นตัวกำหนดว่าเราต้องใส่อะไร เป็นผู้ชายต้องใส่กางเกงนะ
ผู้หญิงต้องใส่กระโปรงสิเเต่ในปัจจุบันเเฟชั่นกลายเป็นสัญลักษณ์
ในการเเสดงออกถึงจุดยืนในสังคมไม่มีใครเรียกร้องให้ใครแต่งตัว
เหมือนใครขอเเค่ทุกคนสนุกที่จะเเต่งตัวได้เเต่งแบบที่ใจอยากกล้าฉีก
ขนบแบบเดิมๆเเละตะโกนบอกสังคมไปเลยว่า“นี่เเหละคือสิ่งที่ฉัน
ต้องการ”เเต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า การเเต่งตัวบางสไตล์ก็ยังไม่เป็นที่ยอม
รับารเป็นอิสระจากสายตาคนอื่น ยังคงเป็นเรื่องยาก ถ้าอย่างนั้น


 

Frank เราได้เชิญหนุ่มน้อยสายติส ‘ต้นหน’ มาเเชร์ถึงมุมมอง วิธีคิด
อิสระในการเเต่งตัวเเรงบันดาลใจที่อยากจะผลักดันเเฟชั่นไทยไปสู่
อีกขั้นเชื่อได้เลยว่า หากเพื่อนๆ ดูจบเเล้ว น่าจะได้มุมมองไอเดียใหม่ๆ
จากหนุ่มน้อยคนนี้เเน่นอน !